Diablo II: สกิลเทพที่คนเล่นต้องรู้! พลาดแล้วเสียใจแน่นอน

webmaster

Diablo II: Resurrected ยังคงเป็นเกมยอดนิยมเหนือกาลเวลา และหนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือความหลากหลายของตัวละครและทักษะมากมายให้เลือกใช้ แต่ละแพทช์มีการปรับสมดุล ทำให้เกิดเมต้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผู้เล่นต่างค้นหาสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อสร้างตัวละครที่แข็งแกร่งที่สุดหลายคนอาจจะยังสงสัยว่า skill ไหนมันปังจริง skill ไหนมันแป้ก วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง skill ยอดนิยมที่เหล่าผู้เล่น Diablo II นิยมใช้กัน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมและนำไปปรับใช้กับการสร้างตัวละครของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป อะไรที่เคยดีอาจจะไม่ดีแล้วก็ได้จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ลองเล่นหลายๆ build มาแล้ว พบว่าบาง skill ที่เคยคิดว่าไม่น่าจะเวิร์ค กลับกลายเป็นว่าใช้งานได้ดีเกินคาดเมื่อนำมาผสมผสานกับ item ที่ถูกต้อง ดังนั้นการศึกษาข้อมูลและทดลองเล่นด้วยตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญและที่สำคัญที่สุดคือ การตามให้ทันเทรนด์!

เพราะ Diablo II ไม่เคยหยุดนิ่ง มีการอัพเดทและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราไม่ตกขบวนในอนาคต เราอาจจะได้เห็น build ใหม่ๆ ที่แปลกแหวกแนวเกิดขึ้นมาอีกมากมาย ดังนั้นการเปิดใจเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ๆ จะช่วยให้เราสนุกกับเกมนี้ได้มากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ มาดูกันว่า skill ไหนที่เขาว่าดีกันบ้างมาดูกันว่า skill ไหนที่เค้าว่าดี เหมาะกับสถานการณ์ไหน และทำไมถึงเป็นที่นิยม แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม Diablo II ถึงเป็นเกมที่เล่นได้ไม่มีเบื่อแน่นอน!

มาดูกันให้ชัดๆ ว่า Skill ไหนที่ใช่สำหรับคุณ!

Diablo II: Resurrected ยังคงเป็นเกมที่ครองใจผู้เล่นหลายคน ด้วยความหลากหลายของตัวละครและทักษะที่มีให้เลือกใช้มากมาย แต่ละแพทช์ก็มีการปรับสมดุล ทำให้เกิดเมต้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผู้เล่นต่างพากันค้นหาสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อสร้างตัวละครที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากที่สุดหลายคนอาจจะยังสงสัยว่า skill ไหนมันปังจริง skill ไหนมันแป้ก วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง skill ยอดนิยมที่เหล่าผู้เล่น Diablo II นิยมใช้กัน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมและนำไปปรับใช้กับการสร้างตัวละครของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป อะไรที่เคยดีอาจจะไม่ดีแล้วก็ได้จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ลองเล่นหลายๆ build มาแล้ว พบว่าบาง skill ที่เคยคิดว่าไม่น่าจะเวิร์ค กลับกลายเป็นว่าใช้งานได้ดีเกินคาดเมื่อนำมาผสมผสานกับ item ที่ถูกต้อง ดังนั้นการศึกษาข้อมูลและทดลองเล่นด้วยตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญและที่สำคัญที่สุดคือ การตามให้ทันเทรนด์!

เพราะ Diablo II ไม่เคยหยุดนิ่ง มีการอัพเดทและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราไม่ตกขบวนในอนาคต เราอาจจะได้เห็น build ใหม่ๆ ที่แปลกแหวกแนวเกิดขึ้นมาอีกมากมาย ดังนั้นการเปิดใจเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ๆ จะช่วยให้เราสนุกกับเกมนี้ได้มากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ มาดูกันว่า skill ไหนที่เขาว่าดีกันบ้างมาดูกันให้ชัดๆ ว่า Skill ไหนที่ใช่สำหรับคุณ!

ทักษะยอดฮิตติดลมบน: ทำไมใครๆ ก็ใช้กัน

ทำไมต้อง FCR (Faster Cast Rate)?

FCR หรือ Faster Cast Rate เป็นค่าสถานะที่สำคัญอย่างมากสำหรับตัวละครสายเวทย์ใน Diablo II เพราะมันช่วยลดระยะเวลาในการร่ายเวทย์ ทำให้เราสามารถใช้สกิลได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ DPS (Damage Per Second) หรือความเสียหายต่อวินาทีที่เราทำได้ ยิ่ง FCR สูงเท่าไหร่ เราก็ยิ่งสามารถร่ายเวทย์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ทำให้เราสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นการมี FCR ในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้เราหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้ง่ายขึ้น เพราะเราสามารถร่ายเวทย์ Teleport เพื่อเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถร่ายเวทย์ Buff เพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเองหรือเพื่อนร่วมทีมได้อย่างทันท่วงที

สกิลยอดนิยมกับการใช้งานจริง

สกิลยอดนิยมอย่าง Teleport ของ Sorceress หรือ Hammerdin ของ Paladin ล้วนต้องการ FCR ในระดับที่สูง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลองนึกภาพว่าถ้าเราเล่น Sorceress แล้ว FCR ต่ำ เราก็จะร่าย Teleport ได้ช้า ทำให้เราเสี่ยงต่อการโดนศัตรูโจมตีได้ง่าย แต่ถ้าเรามี FCR ที่สูงพอ เราก็จะสามารถ Teleport ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและปลอดภัยสำหรับ Hammerdin ก็เช่นกัน การมี FCR ที่สูง จะช่วยให้เราสามารถร่าย Blessed Hammer ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาลในเวลาอันรวดเร็ว

FCR เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าดี?

ค่า FCR ที่เหมาะสม จะขึ้นอยู่กับตัวละครและสกิลที่เราใช้ ตัวอย่างเช่น Sorceress ส่วนใหญ่มักจะตั้งเป้าหมายไว้ที่ 105% FCR หรือ 200% FCR เพื่อให้สามารถร่าย Teleport ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่วน Hammerdin อาจจะตั้งเป้าหมายไว้ที่ 75% FCR หรือ 125% FCR เพื่อให้สามารถร่าย Blessed Hammer ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เจาะลึกสกิล AOE (Area of Effect): เคลียร์มอนสเตอร์เป็นว่าเล่น

AOE คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

AOE หรือ Area of Effect คือสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการเคลียร์มอนสเตอร์จำนวนมากใน Diablo II โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Act ที่มีมอนสเตอร์หนาแน่น เช่น Chaos Sanctuary หรือ Worldstone Keep การมีสกิล AOE ที่ดี จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับมอนสเตอร์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถฟาร์มไอเทมและเลเวลได้อย่างรวดเร็วนอกจากนี้ สกิล AOE ยังมีความสำคัญในการเล่นเป็นทีม เพราะมันช่วยให้เราสามารถสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมในการจัดการกับมอนสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สกิล AOE ยอดนิยมใน Diablo II

* Blizzard (Sorceress): สกิลที่สร้างพายุหิมะขนาดใหญ่ สร้างความเสียหาย Cold อย่างต่อเนื่องในบริเวณกว้าง เหมาะสำหรับการจัดการกับมอนสเตอร์ที่เคลื่อนที่ช้า
* Frozen Orb (Sorceress): สกิลที่ปล่อยลูกแก้วน้ำแข็ง สร้างความเสียหาย Cold เป็นวงกว้างเมื่อกระทบกับพื้น เหมาะสำหรับการจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่กันเป็นกลุ่ม
* Lightning Fury (Amazon): สกิลที่ขว้างหอกสายฟ้า สร้างความเสียหาย Lightning เป็นวงกว้างเมื่อกระทบกับศัตรู เหมาะสำหรับการจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่กันเป็นแถว
* Blessed Hammer (Paladin): สกิลที่สร้างค้อนศักดิ์สิทธิ์หมุนวน สร้างความเสียหาย Magic เป็นวงกว้าง เหมาะสำหรับการจัดการกับมอนสเตอร์ทุกชนิด
* Corpse Explosion (Necromancer): สกิลที่ระเบิดศพ สร้างความเสียหาย Physical และ Fire เป็นวงกว้าง เหมาะสำหรับการจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่กันเป็นกลุ่ม

เคล็ดลับการใช้สกิล AOE ให้มีประสิทธิภาพ

* จัดตำแหน่ง: พยายามยืนอยู่ในตำแหน่งที่สามารถโจมตีมอนสเตอร์ได้มากที่สุดด้วยสกิล AOE ของเรา
* ใช้สกิลเสริม: ใช้สกิลเสริม เช่น Teleport หรือ Leap Attack เพื่อเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม
* ทำงานเป็นทีม: ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้สกิล AOE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สกิลสาย Summon: เพื่อนเยอะดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ข้อดีของการเล่นสาย Summon

การเล่นสาย Summon หรือการเรียกสัตว์เลี้ยงออกมาช่วยต่อสู้ มีข้อดีหลายอย่างใน Diablo II ประการแรกคือความปลอดภัย เพราะสัตว์เลี้ยงจะช่วยดึงความสนใจของศัตรู ทำให้ตัวละครของเราปลอดภัยจากการโจมตี ประการที่สองคือความสะดวกสบาย เพราะสัตว์เลี้ยงจะช่วยเราจัดการกับมอนสเตอร์ ทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยมากนักนอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงยังสามารถช่วยเราในการสำรวจแผนที่ และค้นหาไอเทมได้อีกด้วย

ตัวละครสาย Summon ยอดนิยม

* Necromancer: สามารถเรียกโครงกระดูก โกเลม และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ออกมาช่วยต่อสู้ได้
* Druid: สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่า หมี และเรียกสัตว์ป่าต่างๆ ออกมาช่วยต่อสู้ได้
* Amazon: สามารถเรียก Valkyrie ออกมาช่วยต่อสู้ได้

เคล็ดลับการเล่นสาย Summon ให้แข็งแกร่ง

* อัพสกิล Summon ให้เต็ม: สกิล Summon เป็นหัวใจหลักของการเล่นสายนี้ ดังนั้นเราจึงควรอัพสกิล Summon ให้เต็มก่อนสกิลอื่นๆ
* หาไอเทมที่เพิ่มพลังให้กับสัตว์เลี้ยง: มีไอเทมหลายชิ้นที่สามารถเพิ่มพลังให้กับสัตว์เลี้ยงของเราได้ เช่น Enigma หรือ Beast
* ใช้สกิลเสริม: ใช้สกิลเสริม เช่น Amplify Damage หรือ Decrepify เพื่อเพิ่มความเสียหายที่สัตว์เลี้ยงของเราทำได้

สุดยอดสกิล Buff: เพิ่มพลังให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทีม

ทำไมสกิล Buff ถึงสำคัญ?

สกิล Buff คือสกิลที่สามารถเพิ่มค่าสถานะต่างๆ ให้กับตัวละครของเราหรือเพื่อนร่วมทีม ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นและสามารถจัดการกับศัตรูได้ง่ายขึ้น สกิล Buff มีความสำคัญอย่างมากในการเล่นเป็นทีม เพราะมันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของทีมโดยรวมนอกจากนี้ สกิล Buff ยังมีความสำคัญในการ Solo Play เพราะมันช่วยให้เราสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้

สกิล Buff ยอดนิยมใน Diablo II

* Holy Shield (Paladin): เพิ่ม Defense และ Block Chance ให้กับ Paladin
* Battle Orders (Barbarian): เพิ่ม Life และ Mana ให้กับทุกคนในปาร์ตี้
* Oak Sage (Druid): เพิ่ม Life ให้กับทุกคนในปาร์ตี้
* Enchant (Sorceress): เพิ่ม Attack Rating และ Fire Damage ให้กับอาวุธ
* Might (Paladin): เพิ่ม Damage ให้กับทุกคนในปาร์ตี้

เคล็ดลับการใช้สกิล Buff ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

* ใช้สกิล Buff อย่างสม่ำเสมอ: สกิล Buff ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลา ดังนั้นเราจึงควรใช้สกิล Buff อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากมันตลอดเวลา
* เลือกใช้สกิล Buff ที่เหมาะสม: เลือกใช้สกิล Buff ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และตัวละครที่เราเล่น
* ทำงานเป็นทีม: ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากสกิล Buff อย่างเต็มที่

สกิล Debuff: ลดทอนความแข็งแกร่งของศัตรู

ทำไมสกิล Debuff ถึงจำเป็น?

สกิล Debuff คือสกิลที่สามารถลดค่าสถานะต่างๆ ของศัตรู ทำให้ศัตรูอ่อนแอลงและง่ายต่อการจัดการ สกิล Debuff มีความจำเป็นอย่างมากในการจัดการกับศัตรูที่แข็งแกร่ง เช่น Boss หรือ Unique Monsterนอกจากนี้ สกิล Debuff ยังมีความจำเป็นในการเล่นเป็นทีม เพราะมันช่วยลดความอันตรายของศัตรู ทำให้เพื่อนร่วมทีมของเราปลอดภัยมากขึ้น

สกิล Debuff ยอดนิยมใน Diablo II

* Amplify Damage (Necromancer): เพิ่มความเสียหาย Physical ที่ศัตรูได้รับ
* Decrepify (Necromancer): ลด Damage, Attack Speed และ Movement Speed ของศัตรู
* Lower Resist (Necromancer): ลด Resistance ของศัตรู
* Confuse (Necromancer): ทำให้ศัตรูสับสนและโจมตีกันเอง
* Dim Vision (Necromancer): ลดระยะการมองเห็นของศัตรู

เคล็ดลับการใช้สกิล Debuff ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

* ใช้สกิล Debuff ก่อนโจมตี: ใช้สกิล Debuff ก่อนโจมตีศัตรู เพื่อให้เราสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้น
* เลือกใช้สกิล Debuff ที่เหมาะสม: เลือกใช้สกิล Debuff ที่เหมาะสมกับศัตรูที่เรากำลังต่อสู้
* ทำงานเป็นทีม: ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้สกิล Debuff ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดยอดสกิล Movement: หนีไวไล่ทัน

ทำไมสกิล Movement ถึงสำคัญ?

สกิล Movement คือสกิลที่ช่วยให้เราเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการหลบหลีกการโจมตีของศัตรู การสำรวจแผนที่ และการเข้าถึงตำแหน่งที่ได้เปรียบ สกิล Movement ที่ดี จะช่วยให้เราสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้นอกจากนี้ สกิล Movement ยังมีความสำคัญในการเล่นเป็นทีม เพราะมันช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือพวกเขาในยามที่ต้องการ

สกิล Movement ยอดนิยมใน Diablo II

* Teleport (Sorceress): สกิลที่วาร์ปไปยังตำแหน่งที่กำหนด
* Leap Attack (Barbarian): สกิลที่กระโดดไปยังตำแหน่งที่กำหนด พร้อมทั้งสร้างความเสียหาย
* Charge (Paladin): สกิลที่พุ่งไปยังศัตรูด้วยความเร็วสูง
* Whirlwind (Barbarian): สกิลที่หมุนตัวโจมตีศัตรูรอบข้าง พร้อมทั้งเคลื่อนที่ไปด้วย
* Vigor (Paladin): สกิลที่เพิ่ม Movement Speed และ Stamina Recovery

เคล็ดลับการใช้สกิล Movement ให้คล่องแคล่ว

* ฝึกฝนการใช้สกิล Movement: การใช้สกิล Movement ให้คล่องแคล่วต้องอาศัยการฝึกฝน ดังนั้นเราจึงควรฝึกฝนการใช้สกิล Movement อย่างสม่ำเสมอ
* ใช้สกิล Movement ร่วมกับสกิลอื่นๆ: ใช้สกิล Movement ร่วมกับสกิลอื่นๆ เพื่อสร้างคอมโบที่ทรงพลัง
* สังเกตสภาพแวดล้อม: สังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัว เพื่อหาตำแหน่งที่ได้เปรียบในการใช้สกิล Movement

สกิล ตัวละคร ประเภท ประโยชน์
Teleport Sorceress Movement วาร์ปไปยังตำแหน่งที่กำหนด
Leap Attack Barbarian Movement กระโดดไปยังตำแหน่งที่กำหนด พร้อมสร้างความเสียหาย
Holy Shield Paladin Buff เพิ่ม Defense และ Block Chance
Amplify Damage Necromancer Debuff เพิ่มความเสียหาย Physical ที่ศัตรูได้รับ
Blizzard Sorceress AOE สร้างพายุหิมะ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
Raise Skeleton Necromancer Summon เรียกโครงกระดูกออกมาช่วยต่อสู้

Diablo II: Resurrected เป็นเกมที่มีความลึกซึ้งและซับซ้อน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสกิลต่างๆ และการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวละครของเรา จะช่วยให้เราสามารถสนุกกับเกมนี้ได้อย่างเต็มที่ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เล่น Diablo II ทุกคน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า!

Diablo II: Resurrected ยังคงเป็นเกมที่มอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและท้าทายให้กับผู้เล่นเสมอมา การทำความเข้าใจในกลไกและสกิลต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถสร้างตัวละครที่แข็งแกร่งและเอาชนะความท้าทายต่างๆ ได้อย่างสนุกสนาน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกท่านได้ค้นพบแนวทางการเล่นที่ใช่สำหรับตัวเอง แล้วพบกันใหม่ในการผจญภัยครั้งหน้า!

บทสรุป

หวังว่าข้อมูลที่แบ่งปันในบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เล่น Diablo II: Resurrected ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นเก่า การเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเกมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสนุกไปกับเกมได้อย่างยาวนาน และอย่าลืมว่าการทดลองและค้นหาสไตล์การเล่นที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

การผจญภัยในโลกของ Diablo II ยังคงรอคอยพวกเราอยู่เสมอ ขอให้ทุกท่านสนุกกับการเล่นเกมและพบเจอแต่สิ่งดีๆ ใน Sanctuary!

ข้อมูลเพิ่มเติม

1. เว็บไซต์ Arreat Summit เป็นแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ Diablo II รวมถึงข้อมูลสกิล, ไอเทม, และอื่นๆ

2. Diablo2.io เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูล build ต่างๆ ที่ผู้เล่นสร้างขึ้น สามารถนำไปปรับใช้ได้

3. ลองดูสตรีมเมอร์หรือยูทูปเบอร์ที่เล่น Diablo II เพื่อเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ

4. เข้าร่วมกลุ่ม Diablo II ใน Facebook หรือ Discord เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เล่นคนอื่นๆ

5. อย่ากลัวที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ และสร้าง build ของตัวเอง!

ข้อควรรู้

• FCR สำคัญสำหรับสายเวทย์ ช่วยให้ร่ายเวทย์ได้เร็วขึ้น

• สกิล AOE ช่วยเคลียร์มอนสเตอร์จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

• สกิล Summon ช่วยให้ปลอดภัยและสะดวกสบายในการเล่น

• สกิล Buff เพิ่มพลังให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทีม

• สกิล Debuff ลดความแข็งแกร่งของศัตรู

• สกิล Movement ช่วยให้หลบหลีกและเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 📖

ถาม: สกิลไหนที่เหมาะกับการฟาร์มหาไอเทมช่วงต้นเกมที่สุด?

ตอบ: จากประสบการณ์ที่เคยลองมานะ สกิลที่เวิร์คสุดๆ ช่วงต้นเกมคือ Frozen Orb ของ Sorceress นี่แหละ ยิงทีเดียวเคลียร์มอนสเตอร์เป็นวงกว้าง แถมยังแรงใช้ได้เลย หาของง่ายด้วย แค่เน้น stat ไปที่ Energy เยอะๆ จะได้ยิงได้นานๆ ไม่ต้องคอยกิน potion บ่อยๆ แล้วก็อย่าลืมหาไอเทมที่มี +Skills มาใส่ด้วยนะ จะช่วยให้สกิลแรงขึ้นไปอีกเยอะเลย

ถาม: สร้างตัวละคร Assassin แบบไหนถึงจะเก่ง PVP ในแพทช์ล่าสุด?

ตอบ: ถ้าจะเล่น Assassin PVP ตอนนี้ ต้องเล่น Trapsin เลยครับ เน้นวาง Traps รัวๆ แล้วคอยวิ่งหลบเอา ตัว Assassin เองก็ต้องมี block rate สูงๆ ด้วยจะได้ไม่โดน One Hit Kill ส่วนเรื่องสกิล ก็ต้องอัพพวก Lightning Sentry, Death Sentry, แล้วก็ Fade ให้เต็ม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมี Enigma ครับ จะได้ teleport เข้าออกง่ายๆ แล้วก็ต้องฝึก timing ในการวาง traps ให้แม่นด้วยนะ ไม่งั้นโดนเค้าจับทางได้ง่ายๆ เลย

ถาม: มีสกิลอะไรบ้างที่ underrated แต่จริงๆ แล้วเก่งมากๆ ใน Diablo II?

ตอบ: หลายคนอาจจะมองข้าม แต่จริงๆ แล้ว Decrepify ของ Necromancer นี่แหละ คือของดีเลย เวลาเจอบอสโหดๆ หรือพวกมอนสเตอร์ที่ตีแรงๆ ร่าย Decrepify ใส่ไปทีเดียว แทบจะกลายเป็นลูกแมวไปเลย แถมยังช่วยให้ลูกน้องของเราตีแรงขึ้นด้วย ที่สำคัญคือมันใช้ได้กับทุก build เลย ไม่ว่าจะเป็น Summoner, Bone, หรือ Poison ก็ใช้ได้หมด

📚 อ้างอิง